มีส่วนร่วมกับเรา

พันธกิจครอบครัว

"ครอบครัวเข้มแข็ง คริสตจักรเข้มแข็ง"

พันธกิจครอบครัวภายใน คริสตจักร (กลุ่มครอบครัว MBAC)

  • การสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวและระหว่างครอบครัวผ่านการอธิษฐานและการหนุนใจ
  • เสริมสร้างผ่านการอบรมและบทเรียน
  • การรับใช้ร่วมกัน

พันธกิจครอบครัวภายนอก คริสตจักร (ALMA ALLIANCE MARRIAGE ENCOUNTER or M.E.)

  • การเสริมสร้างชีวิตคู่ ผ่านงาน M.E. (Marriage Encounter)
  • การร่วมรับใช้ในกลุ่ม ALMA
  • การเสริมสร้างผ่านบทเรียน
  • การสร้างความสัมพันธ์ ผ่านการอธิษฐาน
  • หนุนใจ และการช่วยเหลือด้านต่างๆ

งาน ALMA มีวัตถุประสงค์ เพื่อช่วยคู่สมรสในการพัฒนาทักษะการสื่อสารในชีวิตคู่ให้ดียิ่งขึ้นตั้งแต่ปี 2001-ปัจจุบัน (2024) ได้มีการจัดงานมาแล้ว 31 ครั้ง และมีจำนวนคู่สมรสที่เข้าร่วมงานถึง 937 คู่

พันธกิจชุมชน

มูลนิธิมหาพรพัฒนา

ความเป็นมาของมูลนิธิมหาพรพัฒนา

มูลนิธิมหาพรพัฒนาก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2002 โดยได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากคริสตจักรมหาพรกรุงเทพ มีจุดประสงค์เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสและครอบครัวในชุมชนและสังคม จึงนับเป็นพันธกิจอวยพรชุมชน

มูลนิธิมหาพรพัฒนาได้รับการจดทะเบียนจากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ เลขอนุญาตที่ ต.๑๑๑/๒๕๔๕

วัตถุประสงค์ของมูลนิธิมหาพรพัฒนา
  1. ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชน, ป้องกันการมั่วสุมยาเสพติด, โรคติดต่อ, พฤติกรรมที่เสื่อมเสีย และการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสมทางเพศ โดยมีกิจกรรมที่เป็นประโยชน์และสร้างสรรค์ หรือโดยผ่านสื่อต่าง ๆ ที่เหมาะสม
  2. เสริมสร้างพัฒนาคุณภาพชีวิตครอบครัว ให้คู่สมรสและคนในครอบครัวมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน โดยจัดกิจกรรมที่เสริมสร้างความสัมพันธ์
  3. สนับสนุนการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนที่เรียนดีและมีความประพฤติดีแต่ยากจน
  4. สนับสนุนครอบครัวที่เดือดร้อน, ขาดแคลน และด้อยโอกาส ให้สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงดูครอบครัวได้
  5. ให้การสงเคราะห์แก่เด็กที่ถูกทอดทิ้ง หรือกำพร้า และคนชราที่ขาดผู้อุปการะ
  6. ดำเนินการเพื่อสาธารณประโยชน์ หรือร่วมมือกับองค์กรการกุศลอื่น ๆ เพื่อสาธารณประโยชน์
  7. ไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่ประการใด   
รายชื่อกรรมการ
1. นายธีระ เจนพิริยประยูร

ประธานกรรมการ

2. นายพงศ์เกียรติ ศรีสุรินทร์

รองประธานกรรมการ

3. นายขจร บุณยนิยม

กรรมการ

4. นายสิทธิชัย ตั้งสุขสันต์

กรรมการ

5. นางจุฑารัตน์ ชูเกียรติวงศ์กุล

กรรมการ

6. นางณัฐฉัตรา วงศ์อุสาหะกุล

กรรมการและเหรัญญิก

7. นางสาววรพรรณ บุลสุข

กรรมการและเลขานุการ

โครงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

เหตุการณ์การปี ค.ศ. 2011 ประเทศไทยประสบมหาอุทกภัยครั้งรุนแรงและระยะเวลานานที่สุดเป็นประวัติการณ์ ก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมากมาย แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า คือ น้ำใจ เป็นความร่วมมืออย่างเต็มกำลังจากทุกภาคส่วน ทั้งจากหน่วยงาน, องค์กร และประชาชน ทั้งภายในและต่างประเทศ มูลนิธิมหาพรพัฒนาได้จัดทำโรงครัวประกอบอาหาร, ลงพื้นที่มอบอาหาร, มอบถุงยังชีพ, ของใช้จำเป็น และยาสามัญประจำบ้านแก่พี่น้องผู้ประสบภัย อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี, เขตจตุจักร กรุงเทพฯ รวมทั้งได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้ประสบภัย เพื่อเป็นการฟื้นฟูภายหลังน้ำลด



โครงการปันน้ำใจสู้ภัย Covid 19

ในปี ค.ศ. 2020 เกิดวิกฤตการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และกอปรกับสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอย หลายครอบครัวประสบปัญหาการถูกเลิกจ้างงาน หรือลดจำนวนวันทำงานลง ทำให้การดำรงชีวิตยากลำบากมากขึ้น และเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น มูลนิธิฯ ได้จัดกิจกรรมสนับสนุน ดังนี้

  • มอบถุงยังชีพ จำนวน 1,050 ถุง ในพื้นที่ชุมชนสันประเสริฐ, ชุมชนคลองกะจะ, ชุมชนลาดพร้าว 130 และชุมชนริมคลองลาดพร้าว ซอย 41
  • มอบหน้ากากอนามัยให้กับเรือนจำ 3 จังหวัด
  • ช่วยเหลือค่าครองชีพ 12 ครอบครัว และทุนสร้างอาชีพ 4 ราย
  • มอบทุนการศึกษาและอุปกรณ์การเรียนการสอนแก่เด็กชุมชน



โครงการ “มหาพรสู่ชุมชน”

มหกรรมขายสินค้าอุปโภค-บริโภคราคาถูกให้กับคนในชุมชน



โครงการทุนการศึกษา

มูลนิธิฯ ได้ตระหนักถึงการศึกษาเป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิต ในทุก ๆ ปีจะมอบทุนการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนที่ขาดแคลน เพื่ออนาคตการเรียนอย่างต่อเนื่องของเยาวชน



พันธกิจในชุมชน

มูลนิธิฯ ได้จัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมและคุณภาพชีวิตให้กับเด็กในชุมชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนา 4 ด้าน คือ ด้านร่างกาย, จิตใจ, สังคม และสติปัญญา โดยผ่านการเรียนการสอนพระคัมภีร์, การเรียนดนตรี, การเรียนภาษาอังกฤษ รวมถึงการจัดกิจกรรมในโอกาสพิเศษ เช่น กิจกรรมวันเด็ก, วันแม่, ค่ายภาษาอังกฤษ เป็นต้น ซึ่งได้รับการตอบรับและความร่วมมือที่ดีจากผู้ปกครองของเด็ก ๆ ในชุมชน



ค่ายภาษาอังกฤษ

ในช่วงปิดภาคเรียนการศึกษา เพื่อสร้างเด็กในชุมชนให้มีทัศนะคติและมีความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น มีความกล้าแสดงออกผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การหาคำศัพท์ เป็นต้น ให้บรรยากาศผ่อนคลาย, ได้ความรู้ และความสนุกสนานไปพร้อม ๆ กัน

การสร้างงานสร้างอาชีพ
เพื่อให้โอกาสให้ครอบครัวเด็กและเยาวชนในชุมชนได้เรียนรู้จักการฝึกอาชีพ เช่น การประกอบอาหาร, ขนม, ของชำร่วย ฯลฯ พร้อมกับการเรียนรู้การวางแผนการลงทุน, กระบวนการผลิต, การจำหน่าย และผลกำไร เช่น การทำสาคูไส้หมู, น้ำพริกกากหมู, การทำตุ๊กตาจากถุงเท้า เป็นต้น เป็นการสนับสนุนให้เด็กมีรายได้พิเศษจากการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองเด็กอีกด้วย

พันธกิจบุกเบิกคริสตจักร

ปัจจุบันคริสตจักรมหาพรกรุงเทพมีคริสตจักรลูก 4 แห่งได้แก่ คริสตจักรมหาพรรังสิต คริสตจักรมหาพรนนทบุรี คริสตจักรมหาพรวะตะแบก (จังหวัดชัยภูมิ) คริสตจักร GCB (Gospel City Bangkok Church) และมีศาลาธรรม 2 แห่งได้แก่ศาลาธรรมวียงเชียงรายและศาลาธรรมบางบัวทอง

พันธกิจบุกเบิกคริสตจักรเป็นส่วนหนึ่งของสายงานพันธกิจภายนอกของคริสตจักร มีวัตถุประสงค์ขยายแผ่นดินของพระเจ้าและเพิ่มพูนคริสตจักรในประเทศไทย เป็นการตอบสนองนิมิตของคริสตจักร เราจะเป็นสาวกที่มีชีวิตครบบริบูรณ์ของพระคริสต์ และทำตามการทรงเรียกในชีวิต พระเจ้ามีการทรงเรียกคริสเตียนแต่ละคนต่างกัน แต่มีการทรงเรียกที่เหมือนกันทุกคนคือการประกาศพระกิตติคุณและสร้างสาวกตามพระมหาบัญชา (มัทธิว 28:18-20)

ถึงแม้พระกิตติคุณได้เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ปี 1828 (195 ปี) ปัจจุบันจำนวนคริสเตียนมีประมาณ 500,000 คน มีคริสตจักรประมาณ 6,000 แห่ง และผู้นำคริสตจักรประมาณ 6,000 คน (ข้อมูลจากกรรมการประสานงานคริสตจักรโปรเตสแตนท์แห่งประเทศไทย กปท ปี 2020) จำนวนคริสเตียนคิดเป็นอัตราส่วน 0.8% ของประชากร 66.1 ล้านคน (สถิติจากสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ณ 5 มกราคม 2023) ซึ่งภาพรวมถือว่าเป็นเป็นสัดส่วนที่ยังน้อยมาก คริสตจักรตระหนักถึงความสำคัญและความเร่งด่วนในการร่วมมือกับองค์กรและองค์การคริสเตียนต่างๆเพื่อขยายอาณาจักรของพระเจ้าทั้งในประเทศไทยและไปยังสุดปลายแผ่นดินโลก (กิจการ 1:8)

การบุกเบิกคริสตจักรสามารถทำได้หลายแนวทาง แนวทางแรกคือการเสริมสร้างสมาชิกที่มีแนวคิดจะกลับภูมิลำเนาเดิมโดยเฉพาะพื้นที่ที่ยังไม่มีผู้เชื่อหรือคริสตจักร ให้เห็นการทรงเรียกของพระเจ้าและตระหนักถึงความจำเป็นในการสร้างผู้เชื่อที่จะนำไปสู่คริสตจักรในชุมชนของเขา เนื่องจากสมาชิกเป็นคนในพื้นที่อยู่แล้วจึงเข้าใจภาษา วัฒนธรรม และประเพณีท้องถิ่นรวมถึงปัญหาเชิงลึกของชุมชนที่จะ pray care share อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อมีผู้เชื่อเกิดขึ้นสามารถตั้งศาลาธรรมตามบ้านซึ่งจะเติบโตเป็นคริสตจักร (จำนวนสมาชิกสมบูรณ์ 30 คนขึ้นไป) ในอนาคต นี่คือวิธีการที่เราใช้ที่ศาลาธรรมเวียงเชียงราย แนวทางที่สองคือการรวมรวมสมาชิกที่อยู่แนวปริมณฑลในรัศมี 30-50 กม.จากคริสตจักร ให้นมัสการออนไลน์ที่บ้านของสมาชิกท่านหนึ่งในระแวกปริมณฑลนั้นเพื่อลดภาระในการเดินทางมาที่คริสตจักรแม่ และที่พวกเขาจะเริ่มนำข่าวประเสริฐไปยังชุมชน สร้างสาวก และเป็นกลุ่มผู้เชื่อที่จะกลายเป็นคริสตจักรในชุมชนของพวกเขาได้ นี่คือแนวทางที่เราใช้ที่ศาลาธรรมบางบัวทอง แนวทางที่สามคือการบุกเบิกคริสตจักรในเมืองใหญ่เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนในสังคมเมืองอย่างเช่นคริสตจักร GCB คงมีแนวทางอื่นๆที่คริสตจักรยังจะเรียนรู้และนำมาปฏิบัติอย่างเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้คริสตจักรมีนโยบายให้คริสตจักรลูกแต่ละแห่งบุกเบิกคริสตจักรลูกของตนเพื่อร่วมขยายแผ่นดินของพระเจ้า และก้าวไปสู่การดูแลตนเองได้ในทั้งในด้านการเงิน การบริหารจัดการคริสตจักร และการสร้างผู้นำเพื่อเป็นคริสตจักรที่เข้มแข็งและเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ในอีก 5 ปีนี้ คริสตจักรมีเป้าหมายที่ศาลาธรรมทั้งสองแห่ง (เวียงเชียงรายและบางบัวทอง) จะบรรลุสถานะเป็นคริสตจักร และยังจะบุกเบิกพื้นที่ใหม่อีกอย่างน้อยสองแห่งคือตำบลศรีวิชัย จังหวัดลำพูน และตำบลการะเกด จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งทั้งสองตำบลยังไม่มีคริสตจักร คริสตจักรยังจะมีส่วนร่วมในโครงการ Love Thailand 1-1-1 ของกปท.ซึ่งมีเป้าหมายในปี 2028 (ครบรอบ 200 ปีพระกิตติคุณเข้ามาในประเทศไทย) จะเห็นจำนวนคริสเตียน 1,000,000 คน คริสตจักร 10,000 แห่ง และผู้นำคริสตจักร 10,000 คน ในประเทศไทย ขอให้พี่น้องชาวมหาพรมีส่วนร่วมในการอธิษฐาน การถวาย และการอุทิศตัวบุกเบิกในพื้นที่ใดที่พระเจ้าทรงเรียกเพื่อเป้าหมายนี้

ผป.พงศ์เกียรติ ศรีสุรินทร์

หัวหน้าพันธกิจบุกเบิกคริสตจักร

พันธกิจโลก

เราอยู่ในกระแสของการประกาศข่าวประเสริฐและการก่อตั้งคริสตจักรออกไปทุกหนทุกแห่งกับชนทุกชาติ ทุกภาษา ทุกวัฒนธรรมทั่วโลก ที่เราเรียกว่า พันธกิจโลก

"ข่าวประเสริฐเรื่องแผ่นดินของพระเจ้าจะได้ประกาศไปทั่วโลก ให้เป็นคำพยานแก่บรรดาประชาชาติแล้วที่สุดปลายจะมาถึง"

(มัทธิว 24:14)

แม้คริสตจักรมหาพรกรุงเทพเป็นเพียงคริสตจักรเล็ก ๆ อายุ 40 ปี ตั้งแต่ปลายปี ค.ศ. 2014 เราก็ได้เริ่มพันธกิจโลกอย่างเต็มรูปแบบเริ่มจากการอธิษฐาน สู่การเรียนรู้ผ่านบทเรียนไครอส (Kairos) สู่ภาคปฏิบัติโดยออกมิชชั่นทริประยะสั้นในพื้นที่จริงร่วมกับมิชชันนารีในหลายพื้นที่ สร้างความเข้าใจ และรับการทรงเรียกที่ชัดเจน

มิชชันนารีของเรา

เรามีการ เตรียมมิชชันนารี และ ส่งมิชชันนารี ไปสู่ประเทศต่างๆ ตามการทรงเรียก ในหลายๆ ประเทศมาเป็นเวลาหลายปี และ ยังคงสนับสนุนมิชชันนารีอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

งานรณรงค์ (Mobilization)

ในปี ค.ศ. 2023 เริ่มต้นบทเรียน สำรวจ หรือ Xplore ในชั้นเรียนเสริมสร้างของคริสตจักรและ จัดอบรมหลักสูตรไครอส ครั้งที่ 10 ประจำปี ค.ศ. 2023 มีการส่งหนุ่มสาวเข้าร่วมงาน Arise Asia เพื่อรณรงค์หนุ่มสาวเข้าสู่สนามพันธกิจโลก, ร่วมงานค่าย NTC (Network Thai Christian, UK), ร่วมเป็นกรรมการแปลหลักสูตรไครอสเป็นภาษาม้ง, ร่วมเป็นผู้แนะแนวกับกลุ่มไครอสอุดรธานี, ร่วมกลุ่ม Beyond Borders การประกาศข่าวประเสริฐกับชาวเอเซียทั่วโลก

งาน Diaspora ในประเทศไทย

ปี ค.ศ. 2023 ยังได้มีการเริ่มต้นใหม่ คิดสิ่งใหม่ ทำสิ่งใหญ่เพื่อพระเจ้า ซึ่งเป็นปีที่พันธกิจโลกร่วมกับกลุ่มพระพรส่วนใต้ซึ่งนำโดยผู้ปกครองสิทธิชัย ตั้งสุขสันต์ ได้เริ่มทำงานกับผู้ย้ายถิ่นฐานชาวมองตานญาด (Montagnard Diaspora) ในประเทศไทย ซึ่งชาวมองตานญาดเป็นชนเผ่าทางตอนกลางของประเทศเวียดนามที่ย้ายถิ่นมาอาศัยในพื้นที่อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี จำนวนกว่า 400 ครอบครัว เป็นผู้ที่มีความเชื่อ แต่ยังไม่มีสถานนมัสการพระเจ้าในวัฒนธรรมของตนเอง

มีการเริ่มสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมากขึ้นผ่านการจัดกลุ่มพระพร (กลุ่มแคร์) ทุกคืนวันศุกร์ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2023

มีการจัดส่งมอบของขวัญจากสะมารีตันส์ (Samaritan's Purse - Operation Christmas Child) ให้กับเด็ก ๆ มากกว่า 200 คน

และจัดพิธีสมรสให้แก่คู่สมรส 2 คู่ ตั้งแต่เดือนตุลาคม ค.ศ. 2023 ก็เริ่มการสามัคคีธรรมกลุ่มสตรีมองตานญาดและแจกจ่ายอาหารให้กับผู้ขาดแคลน แผนการในอนาคตคือ การสร้างผู้นำ, สร้างสาวก และประกาศกับกลุ่มชนมองตานญาด

งานข้ามชาติพันธุ์ ข้ามวัฒนธรรมยังมีอีกมาก แต่คนงานยังน้อยอยู่ จึงถึงเวลาแล้วที่เราจะออกมาลงมือทำร่วมกันเป็นทีม เพียงแต่เราจะย้ายจากผู้ดูอยู่ห่างๆ มาเป็นผู้ลงเล่นในสนามพันธกิจโลกในหน้าที่ต่าง ๆ ที่มีให้ร่วมด้วยช่วยกันมากมายหลายหน้าที่ตามความถนัด ตั้งแต่การอธิษฐาน, การรณรงค์ในกิจกรรมต่างๆ, การต้อนรับ, การถวาย และการออกไปรับใช้ในพื้นที่ต่างๆ

คริสตจักรเด็ก

เริ่มจากการที่ศาสนาจารย์ จุฑาร้ตน์ ชูเกียรติวงศ์กุล หรือ คุณครูอ้อยของเด็กๆ ได้เห็นความสำคัญของการเสริมสร้างเด็กๆ ให้เติบโตขึ้นในทางของพระเจ้า ได้อาสาเป็นผู้ดูแลเด็กๆ ใช้เวลาในระหว่างที่คุณพ่อคุณแม่นมัสการพระเจ้าในห้องนมัสการในการสอนพระคัมภีร์ สอนการนมัสการและจัดกิจกรรมเสริมสร้างสำหรับเด็กๆ ตลอดระยะเวลาหลายปีตั้งแต่ก่อตั้งคริสตจักรเป็นต้นมา

จาก.คุณครูเพี่ยง 1 ท่าน และ เด็กๆ เพียงไม่กี่คน

จาก.พันธกิจที่เริ่มต้นจากภาระใจ จนทุกวันนี้ได้กลายเป็นที่ที่ชาวคริสตจักรมหาพรกรุงเทพ เรียกติดปากกันว่า คริสตจักรเด็ก ไปเล้ว

จนวันนี้คริสตจักรเด็กมีทีมคุณครูที่รักพระเจ้า รักเด็กๆ มาร่วมกับครูอ้อยอาสาสมัครช่วยดูแล สอน และ เสริมสร้างเด็กๆ ให้เดินในทางของพระจ้าหลายๆ ท่าน

ทุกวันนี้มีเด็กๆ จากหลายๆ ครอบครัว ที่เดิบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็ง จนกระทั่งพวกเขาสามารถกลับมาเป็นพี่ๆ ที่ช่วยครูอ้อย ดูแลน้องๆ ในคริสตจักรเด็กกันได้แล้ว

คริสตจักรเด็ก จึงไม่เป็นเพียงแต่ที่ที่คุณพ่อคุณแม่คริสเตียนไว้วางใจให้ทีมคุณครูได้ดูแลและสอนลูกๆ ของพวกเขา แต่ยังเป็นที่ที่เด็กๆ เหล่านั้นยังจะส่งต่อการดูแลเสริมสร้างกันและกันรุ่นต่อรุ่น และ รับช่วงต่อการเป็นผู้รับใช้พระเจ้าผ่านตัวอย่างอันดีนี้ต่อๆ ไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy